วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

หงส์ดีเหลือเชื่อหรือดีจนน่าเชื่อ?

ห่างหายไประยะหนึ่งสำหรับการเข้ามาสรรหาและอัพเดตบทความดี ๆ มาไว้ใน Boogger Liverpoolsport นี้ก็เปิดฤดุกาลมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เชื่อแน่ว่าบรรดากองเชียร์ The Kop ทั้งหลายคงกำลังนั่งยิ้มมีความสุขกับผลงานของทีมได้อย่างสบายอารมณ์กันอยู่ คงไม่มีใครสามรถปฏิเสธได้ ถึงฟอร์มการเล่นของ Liverpool ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ได้ ในครั้งนี้ได้นำบทวิเคราะห์จาก ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล มาเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ เพราะว่านาน ๆ ที จะมีใครออกมาวะเคราะห์ทีมของเราในทางที่ดีให้ได้ชื่นใจกันบางลองเข้าไปอ่านกันดูน่ะ

ผ่านมาเกือบ 2 เดือนนับตั้งแต่ฟุตบอลฤดูกาลใหม่เขี่ยลูกบอลออกสตาร์ท ดูเหมือนนับวัน "หงส์แดง" ก็จะยิ่งดูดีขึ้นเรื่อยๆกับผลงานที่ตอนนี้ทำเอาเด็กหงส์ฝันไกลถึงแชมป์นั้น มันมาจากเรื่องฟอร์มที่ดีเหลือเชื่อหรือดีจนน่าเชื่อว่าจะทำได้แบบนั้นกันแน่?อันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่แพ้ใคร เสียแค่ 2 ประตู ในบอลถ้วยก็ทำได้สวยทั้งแชมเปี้ยนส์ ลีก และคาร์ลิ่ง คัพ ด้วยฟอร์มระดับนี้เสียงชื่นชมที่มีต่อทีมของราฟาเอล เบนิเตซ ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แต่นอกเหนือจากเสียงชื่นชมแล้ว อีกเสียงที่ดังขึ้นมามากในช่วงหลังก็คือเสียงของการ "ยอมรับ" ว่าลิเวอร์พูลทีมนี้เริ่มที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขา "ดีจริง"
ถ้าไม่ดีก็คงไม่ชนะคู่ปรับสำคัญทั้ง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ที่ถือเป็นเกมยากได้ทั้งสองนัดแน่ๆ แม้จะเสียรังวัดไปบ้างในเกมที่เสมอกับสโต๊กแบบน่าเขกก็ตาม ตอนนี้เด็กหงส์ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ก็เริ่มที่จะพูดกันถึงโอกาสได้เป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี 18 ที่เท่ากับจำนวนแชมป์ที่ลิเวอร์พูลครองสถิติเบอร์หนึ่งตลอดกาลอยู่ แต่ก็ส่อแววจะเสียตำแหน่งดังกล่าวให้แมนฯ ยูไนเต็ดที่บี้กันมาจนเหลือห่างกันแค่แชมป์เดียวแล้ว ซึ่งมันไม่ยากเลยที่จะแซงหน้าถ้ามองจากรูปการณ์ปัจจุบัน เอาเถอะ ในฟอร์มการเล่นที่ดีและน่าประทับใจแบบนี้ หลายคนก็ยังไม่กล้าที่จะพูดกันอย่างเต็มปากว่าลิเวอร์พูลมีลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างจริงจัง
มันมีอะไรที่ต้องถามต้องตอบกันอีกพอสมควร แต่ในผลงานที่ปรากฏตอนนี้ก็ต้องบอกว่าพวกเขาไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะขนาดว่าไม่ได้เล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดอะไร กองหน้าก็มีปัญหายิงกันไม่ค่อยได้ แต่การทำได้ขนาดนี้ถือว่ายอดเยี่ยม ที่ต้องให้เครดิตกันเป็นพิเศษก็คือแบ็กโฟร์ที่ตอนนี้ดูเหมือนราฟาจะค้นพบตัวหลักแล้ว 3 ตำแหน่งคือเจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล และอัลบาโร่ อาร์เบลัว โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ที่ครบเครื่องอย่างคาร์ราเกอร์กับสเคอร์เทล ที่มีครบสูตรกองหลังที่ดีทั้งการอ่านเกม จังหวะการเข้าเสียบสกัด ลูกบู๊ ลูกบ้า กลายเป็นรากฐานที่สำคัญของทีมในเวลานี้ แม้แต่กองหลังมาดดีอย่างดาเนี่ยล แอกเกอร์ก็ต้องยอมหลีกทางให้ ส่วนในแดนกลางนักเตะตัวโฮลดิ้งบอลทั้งฮาเวียร์ มาสเคราโน่และชาบี้ อลอนโซ่ ก็แข่งกันทำผลงานยกใหญ่เพราะไม่มีใครอยากจะนั่งสำรองอีกโดยเฉพาะรายหลังที่พยายามแสดงให้เห็นว่าทีมยังพึ่งพาได้เสมอ
ที่เหลือยังน่าเป็นห่วงจึงอยู่ที่แนวรุกที่ยังไม่ถึงกับลงตัวกันเป๊ะๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสองเสาหลักอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ดกับเฟร์นานโด ตอร์เรส ยังไม่ได้คืนฟอร์มกันเพราะมีเรื่องอาการบาดเจ็บรบกวน อีกส่วนอยู่ที่ตัวใหม่อย่างร็อบบี้ คีน ยังเล่นได้ไม่ถึงครึ่งของที่คนคาดหวัง เพียงแต่คีน ก็เริ่มจะมีอะไรดีๆให้เห็นเหมือนกันในช่วง 2-3 นัดหลังที่ลงสนาม เมื่อมีการ "ประสานงาน" ที่ช่วยทำทางให้เพื่อนยิงประตูได้ โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่เคี้ยวทอฟฟี่นั้น คีน เป็นคนที่มีส่วนกับทั้ง 2 ประตูที่ตอร์เรสได้ยิงเต็มๆ มองแง่นึงก็อยากจะผสมโรงด่าเหมือนกันว่าเล่นได้ไม่คุ้มค่าตัว แต่มองอีกแง่ขนาดเล่นยังไม่เต็มร้อยลิเวอร์พูลก็ยังทำกันได้ดีขนาดนี้ ถ้าคีน ปรับตัวเข้าขากับตอร์เรสเหมือนที่เคยเล่นเข้าคู่สุดๆกับเบอร์บาตอฟอะไรจะเกิดขึ้นสำหรับลิเวอร์พูล?
ยิ่งเวลานี้ได้อาวุธหนักตัวใหม่เข้ามาอย่างอัลเบิร์ต ริเอร่า ที่ดูปรับตัวเข้ากับทีมและระบการเล่นฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและเล่นดีเกินค่าตัวไปมากจนหลายคนสงสัยว่าถ้าเป็นแกเร็ธ แบร์รี่ เกมทางซ้ายจะน่ากลัววูบวาบได้ขนาดนี้หรือเปล่า มันก็เลยน่าสนใจเข้าไปอีก ปริศนาเรื่องศักยภาพที่แท้จริงของหงส์แดงนั้นเป็นสิ่งที่น่าลุ้นมากว่าถึงที่สุดแล้วทีมของราฟา จะเล่นกันได้ในระดับไหน จุดแข็งของพวกเขาตอนนี้คือแท็คติกส์ที่รัดกุม รวมกับความฟิตที่เหลือเชื่อที่สามารถไล่บี้คู่แข่งให้จนแต้มได้ตลอดทั้งเกมโดยแทบไม่มีอาการแผ่วให้เห็น ส่วนปัญหาเดิมๆเรื่องโรเตชั่นนั้น เริ่มที่จะไม่ส่งผลมากนัก (และรอดตัวไม่โดนวิจารณ์ด้วยเพราะทีมผลงานดี)
แต่เรื่องความหลากหลายในเกมรุกกับความสม่ำเสมอก็ยังต้องหาทางตอบโจทย์นี้กันต่อไปอีกระยะหนึ่ง สรุปแล้วเอาเป็นว่าเราพอจะเชื่อกันได้ว่าลิเวอร์พูลตอนนี้เริ่มที่จะ "ดีจริง" และมันก็น่าจะมีโอกาสที่ดีกว่านี้ด้วยในอนาคต เพราะตอนนี้หงส์แดงยังตีปีกไม่เต็มกำลังเลย ถ้าพวกเขาทำได้ถึงขีดสุดและรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ใน 3 เดือนนี้
บางทีเราอาจได้มีลุ้นกับหงส์เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีก็เป็นได้!
ที่มา: ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 10/1/2008 3:18:10 AM

ฟรี สถิติเว็บไซต์seo


ไม่มีความคิดเห็น: