วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ความหวังของเรา


ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว ที่ไม่ได้เข้ามาแบ่งปันความรู้สึกที่มีต่อทีมรัก ลิเวอร์พูล เป็นที่ที่ทำให้บรรดากองเชียร์ตอ้งตกอยู่ภายใต้อารมณ์ที่หลากหลายในคราวเดียวกัน ในเวลาที่ทีมเล่นดี ทำเกมส์บุกเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง ประหนึ่งเหมือนกับว่าจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง นั้นเป็นภาพที่เหล่า

The Kop ทั้งหลายอยากจะเห็น แต่พอผ่านไปสักพักอารมณ์การอยากเล่นเกมส์รับกก็มีมากเสียเหลือเกิน แม้จะผ่านช่วงเวลาวิกฤตไปได้ แต่บรรดากองเชียร์ก็แทบลืมหายใจเลยก็ว่าได้ เหตุการณนี้พบเข้ากับตัวเองเลยหล่ะ เมื่อฤดูกาล 2007-2008 นัดก่อนตัดเชือก ยูฟาแชมเปี่ยนลีก นัดที่ 2 กับอาเซนอล ในจังหวะที่เราได้จุดโทษ กัปตันของเราเป็นผู้สังหาร แม้จะเชื่อในฝีเท้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องคิดว่า อย่ายิงข้ามคานน่ะกัปตัน บอกตามตรงหยุดหายใจไปแล้วด้วย แต่เราก็มีความสุขที่ได้ลุ้น (หนักจนเหนื่อย)


ผ่านไปแล้ว 14 นัด สำหรับการสถาปนาการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สำหรับทีมหงษ์แดง เป็นที่ทราบกันดีว่าปีนี้ หงษแดงมากแรงต้ังแต่เริ่มฤดูกาล กับการเอาชนะได้ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี บวกกับเหตุการโกงความตายอันมหัศจรรย์เกินที่จะบรรยายได้ในหลาย ๆ นัด หนึ่งในนั้นคือการเอาชนะ ผีแดงนั้นเอง แต่นัดที่ประทับใจสำหรับผุ้เขียนแล้วก็คือนัดที่เราเอาชนะแมนซิตตี จากที่ตามหลังอยู่ถึงสองประตูในครึ่งแรง เป็นการกลับมาที่ทำให้หัวใจพองโตไปหลายวันเลยหล่ะ


ซึ่งนั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของนักเตะในทีม จะสังเกตว่า ทุกคร้ังที่ทีมตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับให้ต้องบุก แม้แต่เซนเตอร์อย่างคาราเกอร์ ซึ่งในฤดูกาลนี้เราจะเห็นการเติมขึ้นไป ไม่เพียงแค่เพิ่มการบุก แต่หลายครั้งเราจะเห็นการยิงเพื่อหวังเป็นประตูเลยทีเดียว และจากการทำแบบนี้ คาราเกอร์ก็ทำให้เรากลับมาชนะ เดอะโบโรได้ ด้วยประตูตีเสมอ และสุดท้านเราก็กลับมาชนะจากฝีเท้าของกัปตันจีจนได้


ผ่านมาจนถึงเดือนธันวาคมแล้ว ดูเหมือนว่าปัญหาเดิมก็กลับมาให้ทีมอีกครั้งนั้นคือ การยิงประตูไม่ได้ และผลที่ออกมาเสมอแบบไม่มีสกอร์ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มันเป็นช่วงเวลาที่ทีมสามารถทำคะแนนทิ้งห่างเพื่อขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแบบเดียว ๆ ได้ถึงสองครั้งสองคราว แต่ปัญหาก็คือเราทำไม่ได้ ไม่อยากจะคิดเลยว่า นี้อาจเป็นสาเหตที่ทำให้เราพลาดแชมป์ก็เป็นได้ สิ่งหนึ่งที่ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาทีมของเรายังไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้มาก่อน นักเตะส่วนใหญ่ ไม่เคยต้องได้รับความกดดันในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เว้นแม้แต่ เจอร์ราด ผุ้เป็นทุกอย่างของทีม ในขณะที่บรรดากองหน้าก็ยังไม่อยู่ในช่วงที่ทอบฟอร์ม หลายคนอาจตั้งความหวังไว้ที่การมาของคีน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการทำประตูของเจอร์ราดและตอเรส แต่ก็ดูเหมือนว่า คีนเองก็เริ่มจะไม่เข้าใจตัวเองแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของเค้ากันแน่ ประกอบกับปีนี้ตอเรสมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาหลายครั้งแล้ว เชื่อแน่ว่า ทุกคนคงมุ่งความหวังทั้งหมดไปที่ คีน และนั้นยิ่งทำมห้เคขาต้องแบกรับภาระที่อาจจะไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในทีมเสปอร์


อีกคนหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือ ราฟาเอล เบนิเตส นายใหญ่ ปีนี้ทำการบ้านมาดี แต่ก็อาจจะมีบ้างที่การจัดตัวผุ้เล่นนั้น เป็นที่น่าสงสัยของกองเชียร์ หรือเป็นเพราะความเชื่อมันที่มีต่อลูกทีมในทุกตัวผู้เล่น (โดยเฉพาะ เบอร์ 18 ) ตัวผุ้เขียนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็อดชื่นชมความขยันของหมอนี้ไม่ได้เช่นกัน บ่อยครั้งที่การตัดสินใจของราฟาส่งผลไปถึงผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามที่คิด อยากรู้เหมือนกันว่าถ้า เบอร์ 18 เจ็บเค้าจะจัดตัวอย่าไง (แอบบ่นเห็น ๆ )


แต่นี้ก็เป็นเพียงความกังวลในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็มีความเชื่อว่านี้เป็นปีของเราที่จะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เพื่อแชมป์ที่ 19 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านัดต่อ ๆ ไปเราจะได้เห็นการทำประตูที่กระตุ่นความคึกคักของกองเชียร์ให้ได้เห็นกันบ้างนะคะ