ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย : 2 เม.ย.2551
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เวลา : 1.45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, ESPN
เริ่มแล้วนะครับสำหรับมหากาพย์ไตรภาคระหว่างปืนใหญ่-หงส์แดง
ที่จะต้องลงเล่นต่อเนื่องถึง 3 นัดติดต่อกันในระยะเวลาแค่ 6 วัน
เป็นการเจอกันใน 2 รายการใหญ่ที่ต่างก็หวังความสำเร็จเอาไว้เหมือนๆกันด้วย
อาร์เซนอลนั้นบอกได้เลยว่าถึงจะตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ 6 แต้ม แต่ก็ยังหวังในพรีเมียร์ลีกมากกว่าแชมเปี้ยนส์ ลีก
ขณะที่ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าหวังในแชมเปี้ยนส์ ลีกได้เพียงรายการเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการพบกันใน 3 นัดต่อจากนี้ นัดแรกจะเป็นเกมที่สำคัญที่สุดเพราะจะบ่งชี้อนาคตในอีก 2 นัดที่เหลือได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งแต่ละนัดก็จะมี "เกมแพลน" ที่แตกต่างกันออกไปด้วย
ในเกมแรกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมนี้ ถ้าถามทางฝั่งอาร์เซนอลนั้น แน่นอนว่ากันเนอร์สต้องการชัยชนะสถานเดียวเท่านั้น และต้องเป็นการชนะขาดด้วยเพราะจะทำให้เกมพรีเมียร์ลีกในวันเสาร์ที่ก็ยังจำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนไว้ไล่แมนฯ ยูไนเต็ด เบาลงได้เพราะลิเวอร์พูลคงไม่เสี่ยงส่งตัวหลักลงต่อเนื่อง 3 นัด ยิ่งแพ้ในเกมแรก
ราฟาก็ต้องพักตัวหลักในเกมวันเสาร์เพื่อรอแก้แค้นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดรีเทิร์นที่แอนฟิลด์มากขึ้นเท่านั้น
แต่ผมก็ยังเชื่อลึกๆว่าราฟาน่าจะ "ทิ้ง" เกมพรีเมียร์ลีกในวันเสาร์นี้ไปเลยด้วยซ้ำ จากสถานการณ์ที่นำเอฟเวอร์ตันอยู่ 5 แต้ม ถึงแพ้ขี้หมูขี้หมาก็ยังมีแต้มห่างอยู่ 2 หรือ 4 แต้ม (ในกรณีถ้าเอฟเวอร์ตันเสมอ)
อาร์เซนอลนั่นแหละครับจะมีปัญหามากกว่าเพราะต้องเน้นหมดทุกนัด สภาพร่างกายของนักเตะที่เริ่มออกอาการล้ามาหลายนัดก่อนหน้านี้ก็จะส่งผลแน่นอน โดยเฉพาะในเกมที่แอนฟิลด์วันอังคารหน้า
เกมแพลนของราฟา สำหรับการไปเยือนเอมิเรตส์
ดึกวันนี้ก็จะเป็นเกมแพลนเหมือนที่ใช้มาตลอดในการเล่นฟุตบอลยุโรปคือแพ็กเกมรับให้แน่นและใช้จังหวะสวนกลับเร็วเล่นงานเป็นหลัก
ที่ผ่านสูตรนี้ใช้ได้ผลเสมอ แม้แต่อินเตอร์ มิลานก็เสร็จมาแล้ว (ถึงจะไม่ฟูลทีมสมบูรณ์ก็เถอะ แพ้ก็คือแพ้)
แต่ถามว่าสูตรนี้จะได้ผลสำหรับทีมจากอังกฤษเหมือนกันหรือ?
คำตอบคือ "ไม่แน่" ครับ เพราะถึง "บรรยากาศ" ของเกมทั้งราฟา และเวนเกอร์จะทำให้มันเป็นเกม "ยุโรป"
ซึ่งไม่เหมือนเกมภายในประเทศ แต่สไตล์บอลเร็วของอาร์เซนอลก็เป็นของแสลงมากๆสำหรับแนวรับลิเวอร์พูล
ก็เหมือนที่เวนเกอร์ขู่ไว้ครับว่ายิ่งหงส์แดงลงไปแพ็กเกมมากเท่าไหร่ก็มีโอกาสเสร็จมากขึ้นเท่านั้น
ที่เสร็จก็เพราะเกมรุกของอาร์เซนอล เน้นการค่อยๆต่อบอลขึ้นมาเป็นชุดๆ ทีมไหนที่ตั้งรับอย่างเดียวก็จะโดนบุกอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะเสียประตู
เกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลก็โดนบุกข้างเดียวแบบนี้เหมือนกันจนสุดท้ายก็ทานไม่ไหว โดนยิงประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม แถมเกือบแพ้คารังด้วยถ้าเซสก์ไม่ยิงไปชนเสาก่อน
แต่ก็ไม่ใช่ว่าอุดแล้วจะแพ้เสมอไป เพราะหลายๆนัดก่อนหน้านี้อาร์เซนอลก็มีปัญหาเจาะไม่เข้าเหมือนกัน จนกระทั่งมาปลดล็อกตัวเองในเกมที่ผ่านมากับโบลตัน
มันก็จะเป็นการวัดกันระหว่างเกมรับของลิเวอร์พูลกับเกมรุกของอาร์เซนอลเองว่าใครจะกินใคร
ถ้าราฟา ขันเกมรับมาดีแน่นปึ้กไม่เสียท่าง่ายๆ และรู้จักที่จะ "ขู่" บ้างด้วยการใช้ความเร็วของบาเบิลและตอร์เรส เล่นงานเกมรับอาร์เซนอลในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม ไม่ปล่อยให็โดนโขยกข้างเดียว ก็มีโอกาสจะยันเสมอหรือถึงชนะกลับมา
แต่ถ้ายันไม่อยู่แน่นอนว่าโอกาสแพ้ก็มีค่อนข้างสูง
เกมนี้อย่าคาดหวังครับว่าลิเวอร์พูลจะต่อบอลสวยๆสู้กับอาร์เซนอลได้ อย่างดีก็แค่อุดกระจายแล้วรอลุ้นในเกมโต้กลับเร็ว ซึ่งต้องภาวนาให้บอลอย่าไปตายที่เดิร์ค เคาท์ บ่อยๆเพราะจะทำให้จังหวะเสีย
อาร์เซนอลเองไม่ใช่จะไม่มีปัญหา เกมรับเสียประตูง่ายเกินไปในหลายนัด ขณะที่เกมรุกก็ยังไม่ค่อยคม ชนะโบลตันได้ก็เรียกว่าฟ้าสั่งมาจริงๆ เพียงแต่ชัยชนะในเกมนี้ก็นำความมั่นใจกลับมาได้เยอะ
เมื่อมองปัจจัยรอบด้านแล้วก็ถือว่าค่อนข้างสูสีไม่ถึงกับห่างชั้น โดยน้ำหนักให้อาร์เซนอลมากกว่าเล็กๆจากการที่ได้เล่นในบ้านที่คุ้นเคยสนามและมีแฟนบอลให้การหนุนหลัง
ลิเวอร์พูล อาจจะแพ้ในเกมนี้ครับและอาจจะยิงประตูอเวย์โกล์ไม่ได้ ดีที่สุดก็คือผลเสมอเอาไว้ก่อน
แล้วไว้ไปรอล้างตากันในเกมที่แอนฟิลด์สัปดาห์หน้าเอาครับ
ข่าวประจำวันที่ : 2 เมษายน 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น